ฟังไปเรื่อยๆ เหมือนกับเตือนความจำในบางเรื่องที่เราลืม หรือมองข้ามไป ไหนๆก็ฟังแล้ว มาลองสรุปเก็บไว้อีกทีดีกว่า
การนำ Elliott Wave กับ Fibonacci
- เวฟ 2 มักจะเป็น 61.8% ของ เวฟ 1
- เวฟ 3 ที่เกิดเป็นแบบ Extended มักจะเป็นอย่างน้อย 161.8% ของเวฟ 1 โดยส่วนมากจะเป็น 261.6%
- เวฟ 4 มักจะเป็น 23.6% ของ เวฟ 3
- เวฟ 5 มักจะเป็น 61.8% ของระยะ จากจุดเริ่มต้นของเวฟ 1 ถึง เวฟ 3
- เวฟ 5 มักจะเป็น 161.8% ของเวฟ 1
การนำ Elliott Wave มาใช้กับ MACD
หลักๆก็เป็นการหา Divergence หรือ Convergence ของราคา กับ ค่า MACD ก็คือถ้าเรานับเวฟ 3 ได้แล้วตอนจบของ เวฟ 5 เราสามารถใช้ Fibonacci เข้าช่วยจับ และก็ใช้ MACD ช่วยในการ Confirm อีกครั้ง ส่วนตัวแล้วจะใช้ Stochastic ช่วยอีกตัวหนึ่ง เหมือนเรามี Elliott Wave เป็น ปืนยาว Fibonacci เป็น ขาตั้ง และ MACD เป็นกล้องเ็ล็งเป้า
Impulse Wave
- Diagonal Triangle
- Wave 1,3,5 = 3 เวฟย่อย และ เวฟ 4 จะเข้ามาในบริเวณของ เวฟ 1
- Throw Under หรือ Over จะเป็นการ Confirm ถึงการจบของ Wave 5 แล้ว
- เป็นการบอกถึงจะเกิดการกลับตัวอย่างแรง
Correction Wave
- Zigzag 5-3-5, Sharp, มักจะเกิดที่ เวฟ 2
- Flat 3-3-5, Sideways, มักจะเกิดที่ เวฟ 4
- Triangle 3-3-3-3-3, มักจะเกิดที่ เวฟ 4
- Combination, X wave, Sideways มักจะเกิดที่เวฟ 4
เพิ่มเติม
Wave 2 จะไม่เกิน 100% ของเวฟ 1 เสมอ ในบางครั้งถ้าเราเห็น เวฟย่อย 5 เวฟเกิดขึ้น จะไม่สามารถเป็นการเกิด Trend ใหม่ แต่จะเป็น C ของ corrective pattern
Guidelines
Volume เวฟย่อย ปกติ volume ของเวฟ 3 จะมากกว่า เวฟ 5 แต่ถ้า volume ของเวฟ 5 >= เวฟ 3 จะหมายถึงว่า เวฟ 5 เป็นแบบ Extended (Wave 5 extension)
Volume เวฟหลัก Volume จะมากที่เวฟ 5 (All-time high volume at terminal points in bull markets)
Volume ส่วนใหญ่มักจะ spikes เล็กน้อยที่จุด throw-over ของเส้นคู่ขนาน หรือ diagonal triangle resistance line
Volume มักจะน้อยใน corrective waves แต่บางครัั้งเกิด spikes ได้
Volume เวฟหลัก Volume จะมากที่เวฟ 5 (All-time high volume at terminal points in bull markets)
Volume ส่วนใหญ่มักจะ spikes เล็กน้อยที่จุด throw-over ของเส้นคู่ขนาน หรือ diagonal triangle resistance line
Volume มักจะน้อยใน corrective waves แต่บางครัั้งเกิด spikes ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น