วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Hide Away Day 2 - วันฟ้าใส กับประสบการณ์ FOREX ที่ต้องจำให้ขึ้นใจ

ตื่นเช้ามายังเบลอๆ นึกว่านอนอยู่ที่บ้าน มองไปเอทำไมทางเชื่อมระหว่างห้องของผมมันทีบๆละ อ้อเราอยู่ที่เชียงใหม่นี่นา อากาศดีมากครับอุณหภูมิประมาณ 20 องศา

เข้าไปดูกราฟสักหน่อยดีกว่า ค่าเงินยูโรเมื่อคืนปรับตัวลงน่าจะกำลังทำให้ครบ 5 เวฟ เดี๋ยวคงมี Correction และก็อาจจะลงต่อ ดูแล้วตลาดเขาพยายามพัฒนาตัวเขาให้ชนะเราให้ได้ครับ จะเห็นว่าหลายๆอย่างจะเกิดภาพเหมือนจะ เหมือนจะ และก็เปลี่ยนทางอย่างที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวครับ

วันนี้ฟ้าใส มารื้อฟื้นความหลังที่ต้องจำให้ขึ้นใจครับ ความหลังที่เสียเงินให้ตลาดนี่แหละครับ

ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน สมัยยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ครับ ตอนนั้นจำได้ว่าเคยไปสัมภาษณ์กิจกรรม นักลงทุนรุ่นเยาว์ เขาถามว่ามองตัวเองยังไงบ้าง ผมก็ตอบไปอย่างไม่ได้คิดเลยครับ ว่ากิจกรรมนี้เขาต้องการสร้างนักธุรกิจ ที่ลงทุนเป็นกิจจะลักษณะ "ผมอยากเล่นหุ้นครับ" สุดท้ายก็ไม่ได้ร่วมโครงการ

ตัวผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ตอนนี้ยังงงๆ อยู่เลยครับว่า แล้วมาสนใจ FOREX นี้ได้ยังไงเหมือนกัน แต่ที่รู้ๆ เล่นหุ้นครั้งแรกก็ตอนหุ้นบ้านเรากำลังวิ่งจากหลักพัน ถึงหลักร้อยครับ จำแม่นเลยครับ
ซื้อตัวแรกคือ SCC ซื้อเช้าขายบ่ายได้กำไรเนอะๆ พอหลังจากนั้นอีกสองเดือน ขาดทุนหกหมื่นกว่าบาท แถม มีหุ้น FIN1 ที่กลายเป็นกระดาษด้วยครับ เลิกไปพักหนึ่งเลยครับ พยายามอ่านโน้น อ่านนี่นะครับ ไม่เป็นระบบ ไม่ค่อยได้เรื่อง หลังจากนั้นอีกพักหนึ่งก็เอาใหม่ก็ไม่เวิร์ค ยังนึกไม่ออกเหมือนกันครับว่าทำไมถึงมาเล่น FOREX ได้ แต่ก็เหมือนกับเราต้องจ่ายเงินค่าเล่นรายเดือนไปเรื่อยๆครับ เพราะเดือนนึงพอเสียจนเกือบหมดก็เอาเงินเข้าอีกไปเรื่อยๆ อยู่หลายปีครับเสียไปหลายแสนอยู่ ผมก็ถือว่าเสียไปหาประสบการณ์ดีกว่า ไปเสียค่าเรียนเป็นแสนๆ และต้องมาเสียให้ตลาดอีก ก็โชคดีครับที่ผมเสียที ก็ได้ความรู้เพิ่มที จนสุดท้ายมาอ่าน Elliott Wave Principle นี่แหละครับตาสว่างเลย เหมือนหา Jigsaw ตัวใหญ่เจอ ก็เริ่มมีกำไรครับ แต่ก็ขาดทุน กำไร กำไร ขาดทุนเรื่อยๆครับ แต่รวมๆแล้วเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะต้องเสียค่าเล่น เป็นเขาจ้างให้เราเล่นแทน ก็รอดตัวไป คราวนี้เรามาดูกันนะครับว่า ความผิดพลาดหลักๆของผมมีพัฒนาการอย่างไร

ระดับ 0

เข้าตาม RSI ต่ำก็ซื้อ สูงก็ขาย ผมไม่รู้เป็นไงชอบตัวนี้จริงๆครับ สงสัยเข้าใจง่าย ปรากฏว่าไปใช้ตอนตลาดมี Trend ใหญ่เลย RSI ต่ำแล้ว ราคาก็ต่ำอีก RSI ต่ำอีกแล้ว ราคาก็ยิ่งต่ำเข้าไปอีก สุดท้ายเลิกเลยครับ ไม่มี Stop Loss

ระดับ 2

เริ่มมาศึกษาเรื่องการซื้อขายเป็นระบบ เขียวก็ซื้อ แดงก็ขาย ก็ไปเข้าตอนระบบแพ้ตลาด เขียวก็ซื้อ พรุ่งนี้แดงเลยครับ อ้าวตอนนั้นงงครับ ทำไงดี พึ่งซื้อเอง ขายแล้วเหรอ สุดท้ายก็ทำไปไม่รอด

ระดับ 3

เริ่มเข้าใจระบบมากขึ้น เริ่มเอาหุ่นยนต์มาใช้ในการช่วยซื้อขาย แต่ก็ไม่รู้ว่าหุ่นยนต์ทำงานยังไง ไม่ได้ทดสอบย้อนหลัง หรือ Demo Test ก่อนลุยเลย ปรากฏอยู่ในช่วงหุ่นยนต์แพ้ตลาด ก็ขาดทุนอีก บางทีก็อวดฉลาดกว่าหุ่นยนต์ไปปิด Position ก่อน ปรากฏที่ปิดก่อนควรได้กำไรไม่ได้ ที่ไม่ได้ปิดก็ขาดทุน สรุปก็คือไปทำให้หุ่นยนต์เสียระบบ

ระดับ 4

เริ่มทดสอบหุ่นยนต์เป็น เริ่ม Demo Test บ้าง แต่ยังไม่กล้าใช้เล่นจริง ปรากฏว่าที่เล่นจริง ด้วยตัวเองเสียเยอะกว่าให้หุ่นเล่นกับเงิน Demo อีก หุ้นยนต์ทำกำไรได้ 60% เราเล่นขาดทุน

ระดับ 5

เริ่มศึกษา Elliott อย่างจริงจัง เริ่มคาดการณ์ได้ แต่ใจเร็วด่วนได้ Over Leverage คือเล่นหนักเกิน คือเหมือนทุ่มหมดตัวใน Poker เลยครับ เลยเสียครั้งเดียวหมดพอร์ตเลย ทำกำไรมาติดต่อกัน เดือนหนึ่ง วันเดียวขาดทุนหมดเลย มาถึงตรงนี้นะครับ
ไม่ว่าคุณจะเก่งยังไง ห้าม Over Leverage เลยนะครับ เพราะถ้าผิดครั้งเดียวหมดทางแก้ตัวเลยครับ จริงๆที่ขาดทุนในทุกระดับ ทุกครั้งที่ผม Over Leverage ทีไรเงินหมดบัญชีทุกครั้งเลยครับ

มาในระดับนี้ปัญหาก็อยู่ที่ Over Leverage กับ ความอดทนครับ เพราะถ้าเราค่อยๆเป็นค่อยๆ กำไรก็มาเรื่อยๆ แต่ถ้าใจร้อน เงินจะร้อนตามและก็หนีไปครับ

เท่าที่นึกได้ก็ประมาณนี้นะครับ ไว้มีเพิ่มจะมาเล่าให้ฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น